วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เตือนภัย! phishing หลอกโหลดสติ๊กเกอร์ LINE ฟรี แต่ขโมยข้อมูลบัตรเครดิตและ gmail ของเราไปใช้

ช่วงนี้มีคนไม่ประสงค์ดี กำลังหลอกลวงดักเอา gmail account และข้อมูลบัตรเครดิต ผ่านกระทู้หลอกลวงที่ชื่อ "วิธีโหลด Sticker line ที่ต้องเสียเงินซื้อ มาใช้ ฟรี !" โดยจะหลอกให้เราไปเปลี่ยนประเทศใน Google Wallet เพื่อหลอก Play Store ว่าเราอยู่ประเทศนั้น ทำให้เราสามารถโหลดสติ๊กเกอร์ประเทศนั้นได้ (ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้ผล) 
โดยทำ link ไปยังหน้า Google Wallet ปลอม (http://google . trade-e . com/) โดยหน้าตาของเว็บจะเหมือนเว็บ google มากๆ โดยหน้าเว็บนี้จะหลอกให้เรา login account google และหลอกให้เรากรอกข้อมูลบัตรเครดิต
คนร้ายไม่ได้โพสกระทู้เพื่อดักข้อมูลในแค่เว็บ Droidsans เท่านั้น ยังโพสไปยังเว็บอื่นๆ ด้วย โดยจะสมัครชื่อ account เป็นชื่อเว็บ อย่างเว็บ Droidsans ก็จะสมัคร account เป็น "droidsans." หรือเว็บ Thai Android Phone ก็จะสมัคร account เป็น "thaiandroid." เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
สำหรับใครที่เผลอกด login ไปแล้วให้รีบทำการเปลี่ยน password ส่วนคนที่เผลอกรอกข้อมูลบัตรเครดิตไปแล้วก็ต้องรีบติดต่อธนาคารอายัติบัตรเครดิต ก่อนที่บัตรของคุณจะโดนนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

InstaFollow แอพที่คุณจะรู้ได้ทันทีว่า “ใคร” บังอาจบล็อค IG คุณอยู่ !!!

แอพแนะนำวันนี้ ขอเสนอแอพที่มีชื่ว่า “ InstaFollow”  ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ Instagram สามารถเช็คได้ว่ามีใครที่ Follow หรือ Unfollow เราบ้าง หรือเพื่อนๆของเราคนไหนที่เรายังไม่ได้กด Follow บ้าง ตลอดจนช่วยให้คุณจะรู้ได้ทันทีว่า “ใคร” บังอาจบล็อค IG คุณอยู่ !!!
instafollow-2
วิธีการใช้งานง่ายมากๆ เพียงผู้ใช้งานใช้ยูสเซอร์และพาสเวิร์ดจาก Instagram ล็อคอินเข้าไปยังแอพ  InstaFollow  ก็สามารถใช้งานได้แล้ว โดยในหมวดหมู่ของ Follower+ ประกอบไปด้วย
1. Have Unfollowed Me : ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเช็คได้ว่ามีใครที่ Unfollow คุณไปบ้าง และมีจำนวนเท่าไหร่
2. Are Not Following Me Back : ทำให้คุณสามารถเช็คได้ว่ามีใครบ้างที่คุณ Follow นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถกด Unfollow บุคคลที่คุณไม่ต้องการติดตามแล้วได้อีกเช่นกัน
3. I’M Not Following Back : ในหมวดนี้ผู้สามารถเช็คได้ว่ายังมีเพื่อนคนไหนบ้างที่คุณไม่ได้กด Follow ซึ่งคุณเองก็สามารถกด Follow ได้ทันทีจากหมวดหมู่นี้เช่นกัน
instafollow-1
4. Users Who Blocked Me : งานนี้ผู้ใช้รายใดที่สงสัยว่าทำให้ไม่เห็น Instagram ของเพื่อนคนนั้นคนนี้ หรือคนรู้จักได้ เพราะหมวดหมู่นี้จะเช็คได้ว่ามีใครที่แอบบล็อคคุณอยู่ โดยที่คุณไม่ได้รู้ตัวหรือไม่

instafollow
 InstaFollow สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน iPhone และ iPad ครับ

ระวัง!! ใช้ที่ชาร์จปลอมอาจถึงแก่ชีวิต กรณีศึกษา

ช่วงนี้มีข่าวผู้ใช้ไอโฟนที่ยกหูคุยระหว่างชาร์จมือถืออยู่ ถูกไฟดูดเสียชีวิตบ้าง ถูกไฟดูดอาการโคม่าบ้าง เป็นกรณีศึกษาที่ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็น่าสนใจและเป็นโอกาสอันดีที่จะมาเตือนตัก เอ้ย ตักเตือน ถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ของการถูกไฟดูดผ่านโทรศัพท์มือถือนี้ตามหลักวิทยาศาสตร์
ทำไมไฟถึงดูดผ่านมือถือได้
อาจจะโทษไอโฟนว่าเพราะบอร์ดี้เป็นโลหะ ก็เลยถูกไฟดูดสินะ แต่ความจริงมีสองอย่าง (ใครว่าความจริงมีหนึ่งเดียวห๊ะ โคนัน?!?)
ทั้งสองกรณีที่เกิดไฟดูดมันหาใช่บอร์ดี้โลหะไม่ แต่เป็นกระจก ที่มีบางส่วนเป็นโลหะ เพราะทั้งคู่ถูกไฟดูดผ่าน iPhone 4 ไม่ใช่ iPhone 5
- โลหะสามารถ "นำไฟฟ้า" ได้ แต่มันดูดเองไม่ได้ มันต้องมีไฟฟ้าที่แรงพอจะดูด ซึ่งไฟจาก Adapter ที่ไหลออกมาเพียง 5V 1-2A ไม่สามารถทำให้คนตายได้ เพราะร่างกายคนเรามีความต้านทานสูงพอที่จะทำให้กระแสไฟเหล่านี้ไม่ไหลเข้ามาในร่างกาย 5V นี่ถือว่าน้อยนิดมาก ดังนั้นฟันธงได้ว่าไฟไหลมาจากไฟบ้านแน่นอน
แล้วถามว่าไฟบ้านจะไหลผ่าน Adapter เข้ามาได้อย่างไร? หากพูดถึงการทำงานของ Adapter มันคือขดลวดอาบน้ำยาที่วางขนานกันสองขด โดยไม่ได้สัมผัสกัน หากแต่ห่างกันเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ไฟ 220V สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วไปเหนี่ยวนำอีกขดหนึ่งให้เกิดกระแสไฟฟ้าขาออก หาก Adapter ไม่ได้มาตรฐาน (ขอให้เรียกว่าผลิตแบบชุ่ยๆก็คงจะเหมาะกว่า) ก็มีโอกาสที่ขดลวดนั้นจะมาสัมผัสกันเมื่อใช้ไปได้สักพัก และแน่นอน หากมันสัมผัสกัน ไฟ 220V ก็จะไหลตรงเข้าสู่สายชาร์จและตรงสู่โทรศัพท์มือถือทันที และนี่เองคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุหลักของการถูกไฟดูดทั้งสองกรณี
ทั้งนี้ ขอหมายเหตุว่าเป็นการคาดเดาตามหลักที่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเราก็ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น รอผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการอีกทีละกัน

มีคนถามว่าแล้วสาเหตุจะเกิดจากสายชาร์จไม่ได้มาตรฐานได้หรือไม่? อันนี้ตอบได้เลยว่าไม่เกี่ยวครับ เพราะถึงสายชาร์จจะไม่ดีจนไฟรั่ว แต่ไฟจาก Adapter มาตรฐานก็ไม่อาจจะทำอันตรายมนุษย์ได้

จนถึงตอนนี้คงเข้าใจแล้วว่าหากใช้ Adapter ไม่ได้มาตรฐาน ถึงตายได้ง่ายๆเลยนะ นี่เป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนไม่รู้ จึงขอเตือนไว้เป็นอุทาเห่า เอ้ย อุทาหรณ์ หากจะซื้อที่ชาร์จสำรอง ขอให้ซื้อของแท้หรือของที่ได้รับรองมาตรฐาน อย่าไปซื้อมั่วซั่วเพราะเห็นว่ามันถูก เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายนะจ๊ะ

ไฟดูดแค่ไหนถึงจะตาย
ทำไมไฟดูดถึงตาย? เพราะร่างกายเราก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบหนึ่งครับ หัวใจที่เต้นได้ก็เพราะร่างกายสร้าง Pulse ไฟฟ้ามากระตุ้น ระบบประสาท กล้ามเนื้อ รวมถึงสมอง ก็มีไฟฟ้าวิ่งด้วยทั้งสิ้น แต่ปริมาณไฟฟ้าที่อยู่ในร่างกายเรานั้นมีปริมาณตัวเลขที่ต่ำมาก คือแรงดัน 150 mV และกระแสไฟฟ้า 10 uA
การที่เจอไฟบ้านดูดก็เท่ากับทำให้ระบบร่างกายรวนด้วยกระแสไฟฟ้าที่มากกว่าร่างกายเป็นพันเท่า จนระบบในร่างกายล้มเหลวเป็นส่วนๆ หากไปกระทบกับหัวใจหรือสมองก็จะถึงแก่ชีวิตได้อย่างง่ายดาย (กรณีที่เกิดเยอะสุดคือหัวใจล้มเหลว) หรือถ้าโดนสายไฟฟ้าแรงสูง(ปรี้ด)ตามเสาไฟฟ้าดูด ร่างกายก็จะไหม้ทันทีเพราะความร้อนที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านร่างกาย
แล้วการที่ไฟดูดจะอันตรายขนาดไหน เราดูจากสี่อย่างด้วยกัน
กระแสไฟฟ้า (แอมป์) - ไฟฟ้าแค่เกิน 50 มิลลิแอมป์ก็ทำให้ร่างกายถึงแก่ชีวิตได้แล้ว โดยหัวใจอาจจะเต้นไม่เป็นจังหวะจนถึงขั้นหัวใจสูบฉีดเลือดไม่ได้และล้มเหลวในที่สุด ถ้าต่ำกว่านั้นยังแค่มีผลกระทบแบบไม่รุนแรงมากนัก
ระยะเวลา - เชื่อว่ามีคนจำนวนมากเคยโดนไฟ 220V ดูด (ผมก็เคย) แต่ก็ยังมาอ่านบทความนี้ก็ได้ ไม่เสียชีวิตแต่อย่างใด นั่นก็เพราะว่าระยะเวลาการถูกดูดน้อยมาก (หน่วยมิลลิวินาที) กระแสไฟฟ้าเลยเข้าร่างกายไม่มาก แต่หากค้างไว้นานกว่านั้นหน่อยหละก็ อื้ม...
บริเวณที่ถูกดูด - ไฟดูดเกิดจากการที่อิเลคตรอนวิ่งผ่านร่างกายเราเพื่อหาทางออกของชีวิต(คือพื้นนั่นเอง) โดยไฟฟ้ามีคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือจะวิ่งไปหาทางออกที่ใกล้ที่สุด และจะไม่ว่อกแว่กไปไหนเท่าไหร่นัก แต่ก็จะมีว่อกแว่กบ้างหากต้องการที่ระบาย (หากนึกภาพไม่ออกให้นึกภาพฟ้าผ่า) ดังนั้นหากถูกดูดที่ตำแหน่งต่างๆกันไป ก็จะส่งผลกระทบต่างๆกันไป เช่นหากดูดที่มือ มันก็จะวิ่งผ่านหัวใจจนหัวใจล้มเหลวได้ แต่ถ้าถูกดูดที่เท้าอาจจะไม่กระทบต่อหัวใจมากนัก (แต่ก็กระทบบ้างอยู่ดี)
ความต้านทานของร่างกาย ณ ขณะนั้น - ร่างกายมนุษย์ตอนแห้งสนิทจะมีความต้านทานราว 50,000 - 100,000 โอห์ม (แปรผันตามประเทศ เผ่าพันธุ์และสภาพอากาศด้วย) แต่ตอนตัวเปียก ความต้านทานจะลดฮวบไปเหลือเพียง 1,000 โอห์มเท่านั้น และยิ่งความต้านทานต่ำ กระแสไฟฟ้าก็จะเข้ามาได้เยอะ โอกาสเสียชีวิตก็จะสูงขึ้น เข้าใจหรือยังว่าทำไมตอนเด็กๆ ครูถึงสอนว่าถ้าตัวเปียกห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็เพราะสาเหตุนี้นี่แหละ

ของแท้ใช้ Switching ปลอดภัยกว่า
Adapter แท้จริงแล้วมีสองแบบหลักๆคือแบบขดลวดกับแบบ Switching ซึ่งแบบหลังจะเล็กกว่าและไม่มีขดลวด ซึ่ง Adapter ของแท้จำนวนมาก (รวมทั้ง Apple) เปลี่ยนไปใช้ Switching หากเป็นของแท้จะมี Safety Approval พร้อมระบบป้องกันไฟลัดวงจร ทำให้ไม่เกิดไฟรั่วออกมาจนคนเสียชีวิต นี่เป็นอีกเหตุผลที่ของแท้ปลอดภัยกว่า หากเป็นของปลอมก็เป็นไปได้ทุกอย่าง อาจจะเป็นแบบขดลวด หรือถ้าเป็นแบบ Switching ก็ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะลัดวงจรได้สักวันหนึ่ง

สรุปแล้ว ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคหากไม่มีไฟฟ้าใช้ก็คงจะฆ่าตัวตายกันไปครึ่งโลก เรียกว่าไฟฟ้าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ ทุกคนจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจไฟฟ้าให้มากขึ้น อย่างแรกที่ต้องพึงระลึกอยู่เสมอคือ ให้ใช้สินค้าที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ไม่ใช่แค่ Adapter หากแต่ทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นปลั๊กไฟ แบตเตอรี่ ยันโทรศัพท์มือถือ มันไม่ตลกเลยที่จะต้องมาตายเพื่อประหยัดเงินเพียงไม่กี่บาท กว่าจะเกิดมากว่าจะโตอ่านะ

ส่วนกรณีที่มือถือยี่ห้อดังราคาสองหมื่นกว่าๆระเบิดนั้นก็ ... ตัวใครตัวมันจ้า

Credit : droidsans.com

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Apple Store Online US เปิดขาย iPhone 5s, 5c แบบไม่ติดสัญญาแล้ว ( SIM - Free )

ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับใครที่อยู่สหรัฐแล้วต้องการซื้อหา iPhone 5s, 5c เพื่อหวังจะนำกลับมาใช้ที่ไทย วันนี้ทาง Apple เริ่มเปิดขายทั้ง 2 รุ่นแบบไม่ต้องติดสัญญากับเครือข่ายผู้ให้บริการแล้วนะครับ
สามารถเลือกซื้อได้ที่ Apple Store Online พร้อมจัดส่งถึงที่โดยราคาของแต่ละรุ่นดังนี้

ราคา iPhone 5s

  • 16GB - 649$ (ประมาณ 20,119 บาท)
  • 32GB – 749$ (ประมาณ 23,219 บาท)
  • 64GB – 849$ (ประมาณ 26,319 บาท)
Screenshot 2013-11-23 12.09.01Screenshot 2013-11-23 12.06.42

ราคาของ iPhone 5c

  • 16GB – 549$ (ประมาณ 17,019 บาท)
  • 32GB – 649$ (ประมาณ 20,119 บาท)
Screenshot 2013-11-23 12.08.07
Screenshot 2013-11-23 12.07.59

คำถามต่อไปว่าสามารถนำมาใช้ที่ไทยได้ไหม?

Apple ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า
If you buy a SIM-free iPhone, you will need to purchase a GSM-compatible nano-SIM card separately. In the United States, you can purchase such a SIM from AT&T or T-Mobile. When you travel internationally, you can use a nano-SIM card for iPhone 5s from a local GSM carrier. The unlocked iPhone 5s model is A1533 (GSM). For details on LTE support, see www.apple.com/iphone/LTE.
หมายถึงเครื่องที่ซื้อมาจะได้ Model A1533 GSM (สามารถดูที่หลังเครื่องได้)  ซึ่งโมเดลนี้รองรับระบบ GSM ที่แน่นอนคือบ้านเราทั้ง AIS, DTAC และ TRUEMOVE H ต่างก็เป็น GSM ฉะนั้นสามารถใช้งานได้แน่นอน
อ้างอิงโมเดล A1533GSM กับเครือข่ายมือถือที่รองรับ
  • Model A1533 (GSM)*: UMTS/HSPA+/DC-HSDPA (850, 900, 1700/2100, 1900, 2100 MHz); GSM/EDGE (850, 900, 1800, 1900 MHz); LTE (Bands 1, 2, 3, 4, 5, 8, 13, 17, 19, 20, 25)
ใครอยู่เมกาแล้วคิดจะกลับไทยหากอยากได้เครื่องที่ปลดล็อคแล้วให้ซื้อผ่านทาง  Apple Store Online ได้เลยนะครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม Apple

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

iOS 7.1 Beta มีอะไรใหม่บ้าง?


iOS 7.1

iPhone5sios7-640x424
หลังจากที่แอปเปิลปล่อย iOS 7.1 beta 1 ให้กับนักพัฒนาได้ทดสอบการใช้งานเพื่อปรับปรุงการทำงานในส่วนต่าง ๆ ให้ดีมากยิ่งขึ้น และใน beta 1 นี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างชมจากรายงานนี้กันครับ

ความเปลี่ยนแปลง iOS 7.1 beta 1

  • คีย์บอร์ดจากเดิมจะเป็นสีขาว สามารถตั้งให้เป็นสีดำอย่างเดียวได้
darkkeyboard-640x326
darkkeyboard1

  • สามารถความโปร่งแสงของโฟลเดอร์ได้จากเดิมโปร่งแสงให้ทึบขึ้นได้เพื่อให้ตัวอักษรมีความคมชัดมากขึ้นเมื่อตัดกับสีพื้นหลังที่เป็นสีทึบ
reducetransparency-640x559
increasedcontrast

  • HDR สามารถตั้งโหมด Auto ได้จากเดิม จะมีเพียงแค่ On และ Off เท่านั้น
hdrauto-640x360
hdrauto2-640x360

  • มีตัวเลือกเพิ่มให้สามารถอัพรูปถ่ายจาก Burst Mode ขึ้น Photo Stream ได้
burstphotos

  • Yahoo Logo แบบใหม่
yahoologo

  • ไอคอน Flickr ใหม่
flickr


Notification Center หากไม่มีการแจ้งเตือนจากเดิมจะไม่มีข้อความใด ๆ เลย iOS 7.1 beta 1 จะแสดงข้อความแบบด้านล่างนี้นะครับ
photo-1

และสำหรับความเปลี่ยนแปลงในด้านอื่น ๆ รวมถึงลิงค์สำหรับดาวน์โหลด iOS 7.1 beta 1 ถ้ามีมาแล้วจะอัพเดทให้ทราบกันอีกครั้งนะครับ
ที่มา-cultofmacredmondpie

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Block เบอร์โทร iOS7

หากเราต้องการบล็อคเบอร์แปลกหรือเบอร์บริษัทประกัน ทำตามนี้ครับ ^_^

1.เปิดประวัติการโทรหรือข้อความที่ต้องการบล็อค


2. กดปุ่ม ( i )

3. เลือก Block this caller (บรรทัดล่างสุด)

เลือก Block Contact 

เท่านี่ก็จะบล็อคเบอร์ได้แล้ว

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิธียืดอายุแบตเตอรี่โทรศัพท์ และ Power Bank ที่ใช้ Li-ion

วิธียืดอายุแบตเตอรี่โทรศัพท์ และ Power Bank ที่ใช้ Li-ion

ทุกครั้งที่มีการเปิดตัว Smartphone หรือ Tablet  เราจะได้เห็นสุดยอดอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติดีว่า เก่งว่า ฉลาดกว่า และเร็วกว่ารุ่นก่อนๆ   แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับทั้งผู้ออกแบบก็ดัี โปรแกรมเมอร์ก็ดี  หรือแม้แต่ผู้บริโภคก็ตาม ทุกคนจะใส่ใจมากว่าอุปกรณ์ตัวเก่งนี้จะสามารถใช้งานได้นานเพียงใด ใช่แล้ว..เรากำลังพูดถึงแบตเตอรี่นั่นเอง
How-to-charge-battery

วิธียืดอายุแบตเตอรี่โทรศัพท์ มือถือ, Smartphone, หรือ Tablet ให้สามารถใช้ได้มากกว่า 1 ปีกันอย่างไรบ้าง?
เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าวิธีและพฤติกรรมในการชาร์จแบตเตอรี่จะมีผลกับอายุการใช้งานของมันโดยตรง  แต่เราก็ยังคงสงสัยกันอยู่ทุกครั้งไปเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ และคำถามต่างๆ เหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวทุกคนอยู่ใช่ไหม?
  1. ชาร์จแบตครั้งแรกต้องชาร์จทิ้งไว้ 8 ชั่วโมงหรือไม่?
  2. ควรใช้แบตให้เกือบหมดก่อนแล้วค่อยชาร์จจริงมั๊ย?
  3. แล้วถ้าใช้แบตจนหมดเกลี้ยงจะทำให้แบตเสื่อมใช่ไหม?
  4. ชาร์จแบตทิ้งไว้นานๆ แล้วแบตจะเสื่อมรึเปล่า?
ไม่อธิบายอะไรเป็นวิชาการให้งงมากไปกว่าเดิมนะครับ ตอบคำถามกันไปตรงๆ ตามนี้เลยว่า
 คำตอบข้อ 1 
แบตเตอรี่ที่มากับ Smart Phone ส่วนใหญ่จะเป็บแบตแบบ Lithium ion หรือที่เขียนเป็นตัวย่อๆ ว่า Li-ion ซึ่งแบตเตอรี่แบบนี้เมื่อซื้อโทรศัพท์มาใหม่ก่อนใช้งานครั้งแรก คุณไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตทิ้งไว้ 8 ชั่วโมง เหมือนโทรศัพท์รุ่นเก่าๆ อีกแล้ว
และแบตจะทำงานเต็มที่เมื่อผ่านการชาร์จไปประมาณ 3 ครั้ง
 คำตอบข้อ 2 
ความจริงแล้วคุณสามารถชาร์จแบตได้ตลอดเวลา ไม่ทำให้แบตเสื่อม หรือเสียแต่อย่างใด โดยคุณสามารถกำหนดเส้นแดงของคุณไว้ได้เลย เช่น ถ้าแบตเหลือ 20% ก็เสียบสายชาร์จได้แล้ว ซึ่งการชาร์จที่ดีก็ควรชาร์จให้เต็ม 100% ไปเลย
 คำตอบข้อ 3 
การใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง บ่อยๆ ครั้งเข้า ถือเป็นจุดเริ่มของการทำให้แบตเสื่อม หรือเสียนั่นเอง ดังนั้น “นี่คือข้อห้ามเด็ดขาด”
 คำตอบข้อ 4 
แบตเตอรี่แบบ Li-ion เมื่อชาร์จเต็ม 100% แล้วจะทำการตัดการรับไฟไปเอง ดังนั้นนี่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมครับ

 คำแนะนำอื่นๆ 
มาทำความเข้าใจเรื่องวิธีการชาร์จแบตกันเถอะ ไม่ควรทิ้งอุปกรณ์หรือแบตเตอรี่ไว้ในที่ความร้อนสูงเช่น ในรถของคุณ เพราะมันจะทำให้แบตเสื่อมเร็วครับ
มาทำความเข้าใจเรื่องวิธีการชาร์จแบตกันเถอะ ควรอัพเดทเฟิร์มแวร์บนโทรศัพท์ หรือ iPhone หรือ iPad ของคุณให้ใหม่ทึี่สุดเสมอ อย่างเช่นใน iOS มักจะมีเวอร์ชั่นย่อยตามหลังเวอร์ชั่นหลักเพื่อแก้ปัญหาของแบตเตอรี่เสมอ
มาทำความเข้าใจเรื่องวิธีการชาร์จแบตกันเถอะ  ควรเสียบสายชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟก่อน แล้วค่อยเสียบเข้ากับตัวโทรศัพท์ของคุณ เพราะกันไฟกระชากซึ่งเสี่ยงต่อการพัง
มาทำความเข้าใจเรื่องวิธีการชาร์จแบตกันเถอะ  ที่ชาร์จควรใช้ของแท้จะดีที่สุด เพราะเป็นอุปกรณ์ที่คำนวณปริมาณการจ่ายไฟ ที่เข้ากับเครื่องนั้นๆ มาแล้ว เราได้ยินข่าวการระเบิดของอุปกรณ์จากประเทศจีนมากันเยอะแล้ว  อย่าเสี่ยงเลยครับ
มาทำความเข้าใจเรื่องวิธีการชาร์จแบตกันเถอะ  ในการเอาที่ชาร์จสำหรับ iPhone ไปใช้ชาร์จ iPad นั้น..สังเกตดูได้เลยว่าไฟเข้าช้ามาก นั่นก็เพราะปริมาณการจ่ายไฟที่แตกต่างกันนั่นเอง ดังนั้นก็ใช้ให้ถูกประเภทด้วย
มาทำความเข้าใจเรื่องวิธีการชาร์จแบตกันเถอะ  (อันนี้เคล็ดลับส่วนตัว) การ Restart เครื่องก่อนชาร์จแบต ทำให้ระบบในเครื่องได้ reset ตัวเอง ซึ่งนั่นทำให้การแสดงปริมาณแบตของเครื่องไม่รวนนั่นเอง
มาทำความเข้าใจเรื่องวิธีการชาร์จแบตกันเถอะ  ชาร์จแบตแต่ละครั้ง ถ้าชาร์จจน Full Charge ก็จะทำให้ระยะเวลาการใช้งานได้นานมากขึ้น ส่วนจะ Full Charge ยังไง ถ้าใช้วิธีดูเอาเองเมื่อแบตเต็ม 100% ก็ชาร์จต่อไปอีกสัก 1 ชั่วโมง แต่ถ้าจะให้สะดวกก็ดาวน์โหลด App ที่ผมเคยแนะนำไปแล้วมาช่วยระหว่างชาร์จนะครับ

Credit : gotwogether.com

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สร้าง Apple ID โดยไม่ใช้บัตรเครดิตด้วย iTunes

สร้าง Apple ID โดยไม่ใช้บัตรเครดิตด้วย iTunes

หลายคนยังไม่มี Apple ID เป็นของตัวเองเพราะกลัวว่าจะต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรือ ยังไม่มีบัตรเครดิตเลยสร้าง Apple ID ยังไม่ได้ซึ่งวิธีสร้างจะบังคับให้กรอก และบางร้านตามห้างก็มีรับสร้าง Apple ID ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 100-300 บาท ซึ่งค่อนข้างแพง ผมเลยอยากมาแนะนำการสร้าง Apple ID ด้วยตนเองโดยไม่ต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิตครับ

Apple ID คืออะไร ?
Apple ID คือ Account ส่วนตัวที่ไว้ใช้สำหรับยืนยันตัวตนของเราใน Apple 

 
 
Apple ID ทำอะไรได้บ้าง?
เราสามารถนำ Apple ID ของเรานั้นมาดาวน์โหลด หรือซื้อสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ ของ Apple ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

iTune Store , App Store หรือแม้กระทั่ง Apple Online Store  (ณ ปัจจุบันเราสามารถซื้อ เพลงไทย หรือภาพยนต์ไทย ใน iTune Store ได้แล้วนะครับ และในอนาคตคาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)




Apple ID จำเป็นไหมที่ต้องมี?
Apple ID นั้นนอกจากจะดาวน์โหลดหรือซื้อสินค้าแล้วเรายังสามารถใช้ Apple ID  ในการคุย แบบข้อความใน iMessage  หรือจะคุยแบบเห็นหน้าใน FaceTime หรือแม้กระทั่งต่ออายุประกัน Apple Care  และยังสามารถ ใช้สำรองข้อมูลในระบบ iCloud   ได้อีกด้วย


และที่สำคัญเรายังสามารถ Upgrade,Update หรือสิ่งใหม่ๆ หรือเวอร์ชั่นใหม่ๆได้ด้วยตัวเองเพียงแค่ต่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น และด้วยการสำรองข้อมูลแบบใหม่ที่เรียกว่า iCloud เพื่อไม่ให้ข้อมูลทับซ้อนหรืออยู่ๆก็ ข้อมูลหาย สาเหตุหลักเกิดจากการใช้ Apple ID ร่วมกันหลายคน ทำให้ไม่รู้ใครกดลบกันแน่ เพราะฉะนั้นเราควรมี Apple ID เป็นของตัวเอง ดีที่สุดครับ


ขั้นแรกให้เปิดโปรแกรม iTune ขึ้นมาครับแล้วคลิกที่ iTine Store (อยู่มุมบนขวา)

เลือก Store ให้เป็นประเทศไทยหรือประเทศที่ต้องการ

จากนั้นให้ค้นหาแอพอะไรก็ได้ที่ปล่อยให้โหลดฟรี Ex. Line แล้วคลิกที่ปุ่ม Free

คลิก Free เพื่อ Download
จากนั้นโปรแกรมจะให้เรากรอก Apple ID ให้เราเลือก Create Apple ID



ทำตามขั้นตอนดังภาพแล้วกรอกข้อมูลให้ครบ

Continue
เลือก "ฉันได้อ่านและยอมรับ..." จากนั้นคลิก Agree
กรอกข้อมูลให้ครบ และสร้างรหัสผ่านตามเงื่อนไขดังนี้
1. ต้องมีอักษรพิมพ์ใหญ่อย่างน้อย 1 ตัว
2. ต้องมีตัวเลขอย่างน้อย 1 ตัว
3. ต้องมีความยาวอย่างน้อย 8 อักษร
เมื่อกรอกเสร็จให้คลิกปุ่ม Next

ขั้นตอนนี้จากเดิมจะไม่สามารถเลือก NONE ได้ ให้เลือก None แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
เมื่อกรอกเสร็จให้คลิก Create Apple ID

จากนั้น Apple จะส่ง Verify Link ไปให้โดยจะส่งไปยังอีเมลล์ที่ใช้สมัคร ให้ทำการยืนยันโดยคลิกที่ลิงค์ที่ได้ในอีเมลล์ จากนั้นระบบจะให้กรอก Apple ID และ รหัส ที่สร้าง ในหน้าเว็บหากกรอกเสร็จเราจะสามารถใช้ Apple ID นี้ได้แล้วครับ ^ ^


[How to?] วิธีแก้ Task Bar หายไป (ไม่ใช่ Auto Hide)

วิธีแก้ไข Task Bar หายไป (ไม่ใช่ Auto Hide)(Microsoft Windows 7)         เป็นเหตุการณ์ที่พบไม่บ่อยนักนะครับที่ Task Bar หรือแถบงาน โดยป...