วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

iTools สิ่งที่จะทำให้คุณพูดได้เต็มปากว่า iPhone เล่นง่ายกว่าที่คิด

วันนี้ผมมีโปรแกรมมาแนะนำสำหรับชาว Apple ครับหลายๆคนบอกว่าทำยังไงก็ไม่ชินไม่ถนัดกับการ sync เครื่อง iPhoneiPod iPad กับโปรแกรมiTunes เสียที อยากให้มันง่ายเหมือนโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นๆทั่วไปคือเสียบแล้วลากเข้าลากออกได้มาครับมีโปรแกรมอยู่ตัวนึงที่น่าสนใจ ใช้ง่าย หน้าตาสวย โปรแกรมนั้นมีชื่อว่า iToolsครับหลายๆคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วแต่ผมเชื่อว่ามีอีกไม่น้อยที่ยังไม่รู้จักโปรแกรมนี้และหลายคนก็ใช้มันไม่ได้ครบถ้วนทุกกระบวนโปรแกรมวันนี้ผมจะมานำเสนอให้ทุกท่านได้รู้กันครับ
แนะนำโปรแกรมกันก่อน iTools จริงๆแล้วออกมาหลายเวอร์ชั่นแล้วครับเว็บไซต์ผู้พัฒนาเขาแจกให้ใช้กันฟรีๆครับ แต่การใช้งานนั้นต้องมีโปรแกรม iTunesในเครื่องก่อนนะครับเสมือนเป็นDriver ให้กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของเรารู้จักกันครับ แล้วโปรแกรม iToolsนี่จะเป็นตัวช่วยในการจัดการกับอุปกรณ์โดยตรงลดขั้นตอนยุ่งยากในiTunes ครับและที่สำคัญรองรับทั้ง Windows และ Macและความสามารถไม่ธรรมดาของมันนั้นทำให้หลายๆคนติดใจต้องพกติดตัวใส่ Flashdriveกันเลยทีเดียวครับ
การดาวน์โหลดมาใช้งานสามารถเข้าไปได้ที่ http://itools.hk/en_index.htm
มีทั้งเวอร์ชั่น Mac OSX และ Windows ครับ สามารถใช้ได้กับ Windows8 ด้วยครับ
  
เมื่อดาวน์โหลดมาเสร็จจะได้เป็นไฟล์ rar มาครับแตกออกมาวางตรงไหนก็ได้ ใส่ Flashdrive ไปใช้ที่ไหนก็ได้ข้อแม้คือเครื่องที่ใช้งานต้องมีiTunes ก่อนเท่านั้นเองครับ
แตกไฟล์ออกมาก็จะเจอโปรแกรมที่ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปใช้ได้เลยครับ
เอาล่ะจากนี้ก็จะเป็นการแนะนำการใช้งานหลักๆที่หลายๆคนถามกันเข้ามาทางLine และ Fanpage ของผมนะครับ
การ Backup
การ Restore
การลงเพลง
การสร้าง Ringtone
การจัดการรูปภาพ

 เริ่มการใช้งาน
ส่วนบนสุดของโปรแกรมนั้นจะเป็น Library เหมือนกันกับในiTunes ซึ่งเราสามารถติดตั้ง ipa เองได้สำหรับเครื่อง Jailbreak
ส่วนต่อมาคือการตั้งค่าต่างๆ เช่น ติดตั้ง ipa ทันทีการแบคอัพ และกู้คืน การแปลง PXL เป็น ipa การสร้าง ringtone
การ Backup Restore
เราสามารถกด Backup เพื่อทำการสำรองข้อมูลอุปกรณ์เราได้ทันทีและสามารถเลือกโฟลเดอร์ในการเก็บไฟล์สำรองข้อมูลได้ด้วยครับช่วยลดข้อจำกัดในการแบคอัพที่จะเจอเช่นHdd เราเต็มขณะแบคอัพได้ดีมากๆครับ
การ Restore ทำเหมือนกับ Backup ครับเลือกกดปุ่ม Restore form Backup
หากท่านมีไฟล์ Backup ใน iTunes อยู่แล้วสามารถเลือกImport ได้ทันทีครับ
เมนูด้านซ้ายมือที่โชวอุปกรณ์ของเรากดเข้าไปดูหน้าหลักจะมีรายละเอียดเครื่องบอกครับค่อนข้างละเอียดทีเดียวสามารถเปิด Function Wi-Fi Connection ได้เหมือนกับ iTunes ด้วยแต่ว่าการแลกเปลี่ยนไฟล์จะช้าลงสักหน่อย  (เปิดเป็น ON แล้วปิดเปิดโปรแกรมใหม่เพื่อใช้ความสามารถนี้ได้ทันทีครับ)
และปุ่มด้านล่างและซ้ายมือนั้นสามารถกดเพื่อเข้าไปจัดการสิ่งต่างๆได้เลยครับ

การจัดการ Applications
เมื่อกด Applications เราจะเห็นหน้าปุ่ม ต่างๆในส่วน All
Install - ติดตั้งโปรแกรมจากไฟล์ ipa หรือ pxl
Uninstall - ลบโปรแกรมทิ้ง
Backup - สำรองข้อมูลของโปรแกรมเช่น เซฟเกมส์,ดึงโปรแกรมมาเก็บในคอมพิวเตอร์ไว้ติดตั้งใหม่
Refresh - อัพเดตรายการโปรแกรมหากมีการทำรายการแล้วไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
Update เราสามารถอัพเดตเวอร์ชั่นโปรแกรมต่างๆในเครื่องได้โดยการกด Updateได้เลยครับ
ตรงนี้สังเกตุว่าจะมีอีเมลที่ลงทะเบียนในการดาวโหลดมาจาก App Store หากเป็นแอพฟรีเรากดได้เลยครับไม่ต้องไปกดจากในเครื่องอีก ส่วน อันที่ไม่ใช่อีเมลของเราเป็นไปได้ว่าติดตั้งมาจากร้านทั่วไปหรือติดตั้งมาจาก ipa ก็ไม่ต้องเลือกอัพเดตนะครับ 
และ ShareDocs เราสามารถบริหารจัดการไฟล์ที่มีการใช้งานไฟล์ภายนอกได้เช่นโปรแกรม AVPlayer สามารถอ่านไฟล์วีดีโอ .mp4 3gp AVI ได้โดยตรงก็สามารถลากมาลงหน้าต่างด้านล่างได้เลยครับ
การจัดการด้าน Media
หากต้องการนำเพลงลงสามารถสร้าง Playlist ได้ดังภาพครับกดคลิกขวาสร้างขึ้นมาแล้วเลือกเพลย์ลิสต์ที่ต้องการเพื่อลากเพลงลงได้ทันมีครับสังเกตด้านขวาเราเลือกอะไรอยู่ด้วยนะครับถ้าเลือก Video ลากเพลงลงไม่ได้นะครับเมื่อเรานำวีดีโอลงเครื่องผ่านโปรแกรม iTools จะทำการ Covert Video ให้เราโดยอัติโนมัติครับหากไฟล์นั้นรองรับ ตรงนี้เมื่อเรากดเมนูRingtone เราสามารถ Import Ringtone ได้ทันทีครับ
กด Make Ringtone จะเจอหน้านี้มาให้เราเลือกเพลงมาตัดทันทีครับง่ายมากๆ โดยการตัดนั้นโปรแกรม กำหนดเวลาของเสียงมาแล้วครับ ไม่ต้องกะเอง ^-^
การจัดการเกี่ยวกับภาพต่างๆ

การดึงภาพจากในคอมพิวเตอร์ลงไปก็กดที่tab Photos แล้วก็สร้างอัลบั้มใหม่ได้เลยครับใช้งานก็แค่ลากรูปจากคอมพิวเตอร์ลงไปยังอัลบั้มที่ต้องการครับ
ส่วน iBooks นั้นหากในเครื่องเรายังไม่มี Application นี้โปรแกรมจะถามว่าเราจะโหลดมาติดตั้งทันทีเลยไหมถ้าไม่สนใจก็ข้ามไปก่อนครับ J
การจัดการ ข้อมูลต่างๆในตัวเครื่อง คลิกแทป Information มีครบ Contacts,Messages ,Notes ,Bookmarks ,Calendar ,Call History ซึ่งผมว่ามันใช้งานง่ายมากๆชอบมากๆ J

ส่วนต่อมาเป็นการจัดการหน้าจอสมมติว่าเราตั้งหน้าตั้งตาจัดหน้าแอพของเราแบบที่เราถนัดไว้แล้วเมื่ออัพเกรด iOSต้องมานั่งจัดหน้าจอกันใหม่คงเซ็งน่าดูส่วนนี้ก็ช่วยจัดให้ได้เหมือนใน iTunes นั่นเองครับ เซฟเอาไว้ได้ด้วย รวมโฟลเดอร์ได้เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ได้ เสร็จแล้วกด Sync to Device ก็เรียบร้อยครับ
ส่วนสุดท้ายก็สามารถสั่งปิดเครื่อง รีสตาร์ทเครื่องได้ เปิด SSHได้(สำหรับ เครื่อง Jailbreak)

สำหรับเรื่อง iTools ก็มีเพียงเท่านี้ ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ติดตามอ่านบทความของผมนะครับ

Credit : โก๋แก่ คอมพื้นบ้าน

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ไม่มีบัตรเครดิตแต่อยากซื้อ App หรือ Sticker Line จะทำยังไง?

สำหรับคนที่อยากซื้อ App ใน iTunes แต่ไม่มีบัตรเครดิต จะทำยังไง?
K-Web Shopping Card หรือ K-Web Card เป็นบัตรที่ใช้ซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตของกสิกรไทย ที่ทางธนาคารกสิกรไทยได้ออกให้ผู้ที่เปิดบัญชีกสิกรไทยได้ใช้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้เอกสารอะไรให้วุ่นวาย สามารถเปิดใช้ได้ง่าย และรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
คนที่ไม่มีบัตรเครดิตเพื่อใช้ทำธุรกิจ เช่น ซื้อ App ใน iTunes สามารถใช้บัตร K-MyDebit, K-MaxDebit การ์ดของธนาคารกสิกรไทยทดแทนได้ ใช้เวลาประมาณ 3 วันก็ทำเสร็จแล้วครับ

รายละเอียดค่าธรรมเนียม
1. ค่าสมัครใช้บริการ
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ค่าธรรมเนียมรายปี
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
2. สอบถามยอดบัญชี
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
3. ดูรายการเดินบัญชีย้อนหลัง
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
4. โอนเงิน (เฉพาะบัญชีที่มีการลงทะเบียนไว้แล้ว)
โอนเงินระหว่างบัญชีตนเอง
ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกัน
ข้ามเขตสำนักหักบัญชี
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
หมื่นละ 10 บาท ตํ่าสุด 10 บาท สูงสุด 1,000 บาท
โอนเงินให้บุคคลอื่นที่มีบัญชีธนาคารกสิกรไทยไม่เกิน 10 รายการ/วัน
ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกัน
ข้ามเขตสำนักหักบัญชี
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
หมื่นละ 10 บาท ตํ่าสุด 10 บาท สูงสุด 1,000 บาท
โอนเงินให้บุคคลอื่นที่มีบัญชีธนาคารกสิกรไทยตั้แต่รายการที่ 11 ขึ้นไป
ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกัน
ข้ามเขตสำนักหักบัญชี
15 บาท ต่อรายการ
หมื่นละ 10 บาท ตํ่าสุด 15 บาท สูงสุด 1,000 บาท
โอนเงินให้บุคคลอื่นที่มีบัญชีธนาคารอื่น
แบบออนไลน์(Online)
วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท/รายการ
วงเงินมากกว่า 20,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท/รายการ
25 บาท ต่อรายการ
35 บาท ต่อรายการ
แบบเร่งด่วน(BAHTNET)
120 บาท ต่อรายการ
ธนาคารผู้รับโอนคิดค่าธรรมเนียมจากผู้รับโอน ดังนี้
กรณีที่บัญชีผู้รับโอนเป็นบัญชีของสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ธนาคารผู้รับโอนคิดค่าธรรมเนียม 100 บาท ต่อรายการ
กรณีที่บัญชีผู้รับโอนเป็นบัญชีของสาขาในต่างจังหวัด
ธนาคารผู้รับโอนคิดค่าธรรมเนียม 100 บาทต่อรายการ
+ หมื่นละ 10 บาท
แบบธรรมดา
วงเงินไม่เกิน 2,000,000 บาท/รายการ
12 บาท ต่อรายการ
ผู้รับได้รับเงินโอนหลังจากวันที่โอน 3 วันทำการ
ธนาคารผู้รับโอนไม่คิดค่าธรรมเนียมจากผู้รับ
5. ชำระค่าบัตรเครดิตกสิกรไทย
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
6. ชำระค่าสินค้าและบริการ เช่น เพจเจอร์, โทรศัพท์มือถือ, ค่าชั่วโมงอินเทอร์เน็ต
อัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ของแต่ละบริษัท
7. บริการเรื่องเช็ค
ตรวจสอบการใช้เช็ค
อายัดเช็ค
ค่าสมุดเช็ค (รวมอากร)

ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่มีค่าสมุดเช็คเล่มละ 300 บาท
8. ค่าสมัครใช้ K-Web Card
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ค่าธรรมเนียมรายปี
9. ค่าสมัครใช้ K-BANK e-Web
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม 
หมายเหตุ
วงเงินสูงสุดในการทำธุรกรรมทางการเงิน (โอนเงินไปบัญชีบุคคลอื่น โอนเงินต่างธนาคาร หรือชำระค่าสินค้า และ บริการ) : 500,000 บาท/User ID/วัน

ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยธนาคารไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สรุป

- ค่าเปิดบัญชีธนาคาร ฟรี
- ค่าบัตร ATM 200 - 500 บาท (ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพื่อไม่เสียเงินเพิ่มในส่วนนี้)
- ค่าเปิดใช้ K-Cyber Banking ฟรี
- ค่าเปิดใช้ K-Web Card ฟรี
- ฝากเงินในบัญชี 500 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับ K Web Shopping Card >>

3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำบัตร K-Web Shopping Card

.
1. เปิดบัญชีเงินฝาก ของธนาคารกสิกรไทย (ถ้ามีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปิดใหม่ก็ได้)
.
1.1 นำบัตรประชาชน ไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย พร้อมทั้งบอกว่า ขอเปิดใช้บริการ K-Cyber Banking (เค-ไซเบอร์-แบ๊งค์กิ้ง) ด้วย เจ้าหน้าที่จะเอาแบบฟอร์มให้กรอก ต้องกรอกอีเมล์ และเบอร์โทรที่ติดต่อได้ (หากไม่มีอีเมล์ ให้เปิดอีเมล์เอาไว้ก่อนไปธนาคาร)
*ถ้ามีบัญชีธนาคารกสิกรไทยอยู่แล้ว ก็นำ สมุดบัญชี+บัตรประชาชน ไปขอเปิด K-Cyber Banking ได้เลย (สาขาไหนก็ได้)
1.2 กลับมาบ้าน รออีเมล์จากธนาคาร ประมาณไม่เกิน 24 ชม. เพื่อทำขั้นตอนต่อไป

2. เริ่มใช้บริการ K-Cyber Banking (เคไซเบอร์แบ๊งค์กิ้ง หรือ บริการธนาคารออนไลน์) 
.
2.1 เช็คอีเมล์ของคุณ ธนาคารจะส่ง Password (รหัสผ่าน) มาให้
2.2 เข้าเว็บไซต์ https://online.kasikornbankgroup.com/K-Online/ib/login_th.jsp
รหัสผู้ใช้งาน พิมพ์ ……….(หมายเลขบัญชีธนาคาารของคุณ)
รหัสผ่าน พิมพ์ …………(หมายเลข รหัสผ่าน ที่ธนาคารให้มา จากข้อ 2.1)
เลือก ระบบภาษา เป็นภาษาไทย
คลิก เข้าสู่ระบบ ตามภาพ
2.3 ยอมรับข้อกำหนด และเงื่อนไขการให้บริการ
2.4  กำหนดรหัสผู้ใช้งาน และรหัสผ่านใหม่
2.5 ยืนยันข้อมูลส่วนตัว
2.6 ตรวจสอบ และแก้ไขที่อยู่
2.7 ตั้งค่ารหัสรักษาความปลอดภัย SMS-OTP (One Time Password)
OTP เป็นการใช้ระบบรหัสผ่านที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องจำรหัส เพราะใช้เพียงครั้งต่อครั้งเท่านั้น รหัสจะถูกส่งผ่านทางระบบ SMS เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของคุณ เพื่อใช้ทำธุรกรรมทางการเงินที่สำคัญ เป็นส่วนตัวของคุณเองเท่านั้น เช่น
  • การโอนเงิน
  • เพิ่ม/ลดบัญชีส่วนตัว
  • เพิ่ม/เปลี่ยนแปลงบัญชีบุคคลอื่น
  • เปลี่ยนที่อยู่ในการติดต่อ
  • ตั้งค่ารหัสรักษาความปลอดภัย
  • สมัครบัตร K-Web Shopping Card
  • เปลี่ยนวงเงินบัตร K-Web Shopping Card
2.8 เข้าสู่หน้าจอหลัก K-Cyber Bankingจะเข้าสู่หน้าจอหลัก ตามภาพ ส่วนนี้คือส่วนที่เรียกกันว่า บริการ K-Cyber Banking ที่คุณจะสามารถใช้บริการธนาคารออนไลน์ได้ โดยเฉพาะการดูรายการเคลื่อนไหวบัญชี เช่นการรับเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ชำระเงิน ต่างๆ เป็นต้น
3. สมัครบัตร K-Web Shopping Card (ถ้าในกรณีสมัครที่เครื่องเอทีเอ็ม ต้องมีบัตรเอทีเอ็ม / บัตรเดบิตกสิกรไทย)
.
3.1 หลังจากใช้ K-Cyber Banking ได้แล้ว ทีนี้เราก็จะไปทำเคเว็บการ์ดกัน
โดย คลิกที่เมนู K-Web Shopping Card > สมัครใช้บริการ
3.2 เลือกบัญชี และกำหนดวงเงิน
การกำหนดวงเงิน คือกำหนดว่า แต่ละเดือน เราจะจำกัดตัวเองให้ใช้เงินได้ไม่เกินกี่บาทต่อเดือน เช่น 2,000 บาท หรือ 3,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท (เฉพาะสำหรับบัตรเคเว็บการ์ดใบนี้) ถ้าหากเดือนนั้น ใช้เงินจนเต็มวงเงินแล้ว ก็จะไม่สามารถใช้เงินได้อีกจนกว่าจะถึงเดือนถัดไป
** สามารถปรับเปลี่ยนวงเงินได้ตลอดเวลา **
3.3 อ่านข้อตกลง และกดปุ่ม ยอมรับ ตามภาพ
3.4 กรอกรหัส OTP ซึ่งจะมี SMS ส่งเข้าโทรศัพท์มือถือของคุณ ให้เอารหัสจาก SMS มากรอก3.5 ทำรายการสำเร็จ ได้อย่างในภาพนี้ แสดงว่า ขอบัตรเคเว็บการ์ดเสร็จแล้วทีนี้ก็รอประมาณ 1 วัน ถึงจะได้เลขบัตรเคเว็บการ์ด แล้วจึงจะทำ ข้อ 3.7 ต่อได้นะครับ
3.6 หลังจากผ่านไป 1 วัน คุณจะได้รับอีเมล์จากธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลการสมัครบัตร K-Web Shopping Card
3.7 เมื่อได้รับอีเมล์แจ้งผลแล้ว จึง Login เข้าไปที่ K-Cyber Banking
คลิกที่นี่ => https://online.kasikornbankgroup.com/K-Online/ib/login_th.jsp
Login ด้วย Username และ Password ใหม่ ที่ได้ตั้งไว้จาก ข้อ 2.4
3.8 คลิกที่เมนู K-Web Shopping Card > ดูรายละเอียดบัตร ด้านซ้ายมือ ตามภาพ
3.9 กรอกรหัส OTP (One Time Password) ซึ่งจะมี SMS ส่งเข้ามือถือของคุณ ให้เอารหัสจาก SMS มากรอก
3.10 เลือกบัตรที่ต้องการจะดูรายละเอียด
3.11 รายละเอียดของ เคเว็บการ์ด ที่สามารถใช้ข้อมูลไปสมัครทำธุรกิจ GDI ได้
CVV = หมายเลขรหัสความปลอดภัย

แค่นี้เราก็จะได้เลขที่บัตรกับ CVV ไปกรอกใน Apple ID ของเราแล้วครับ

Credit: iPhonemod

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคจับผิด “รูปเก่าเล่าใหม่ปั่นกระแสการเมืองเดือด” !!

เทคนิคจับผิด “รูปเก่าเล่าใหม่ปั่น” !!
ช่วงนี้กระแสการเมืองในบ้านเรายังคงร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆขัดกับสภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ยิ่งเทคโนโลยีการสื่อสารมันสะดวกมากขึ้นเท่าไหร่ การกระจายข่าวสารผิดๆก็ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้อุณหภูมิความร้อนแรงทางการเมืองทวีคูณ บางข่าวอาจถูกส่งต่อด้วยความเข้าใจผิดจริงๆ
แต่หลายครั้งที่มีผู้ไม่หวังดีจงใจเสี้ยมให้คนไทยตีกันเองด้วยการขุดเอารูปเก่าจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อครั้งอดีตมาใช้ใหม่ หรือบางครั้งนำรูปจากข่าวประเทศอื่นมาเนียนเป็นเหตุการณ์ในบ้านเราก็มี ...แล้วเราจะทำอย่างไรดีเพื่อจะไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีเหล่านั้น?
วันนี้แอดมินจะขอนำเสนอวิธีการเช็ครูปภาพบนอินเตอร์เน็ทว่าเป็นรูปใหม่สดๆซิงๆหรือขุดเอารูปเก่ามาเล่าใหม่ผ่านเว็บไซต์ http://images.google.com/ ครับ
เมื่อเปิดเว็บไซต์แล้วให้เรากด Search by image ตามรูปครับ
เมื่อกดแล้วจะโผล่หน้าต่างดังรูป ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะค้นหารูปด้วยการก๊อป URL มาแปะ (Paste image URL) หรืออัพโหลดรูปที่มีอยู่ในเครื่องเราเพื่อค้นหาครับ (Upload an image) ถ้าเราเลือกเอา URL มาแปะ พอแปะเสร็จให้กด Search by image อีกทีเพื่อค้นหา แต่ถ้าเลือกอัพโหลดรูปจากเครื่อง พอเลือกไฟล์อัพโหลดเสร็จ เว็บจะแสดงผลการค้นหาให้เราเลย
จากรูป จะเห็นว่า Google จะแสดงผลการค้นหาให้เราดูว่ารูปภาพที่เราค้นหาเคยไปโผล่ในเว็บอะไรมาก่อนบ้าง ซึ่งเราสามารถไล่ดูวันที่เปรียบเทียบได้ว่ารูปที่กำลังส่งต่อมานั้นเป็นรูปจากข่าวเก่าหรือเปล่าครับ
หวังว่าทิปส์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในสถานการณ์ช่วงนี้นะครับ อย่าลืมตั้งสติในการเสพข่าว ไม่ใช้อารมณ์ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติครับ

Credit : Arip


  • [How to?] วิธีแก้ Task Bar หายไป (ไม่ใช่ Auto Hide)

    วิธีแก้ไข Task Bar หายไป (ไม่ใช่ Auto Hide)(Microsoft Windows 7)         เป็นเหตุการณ์ที่พบไม่บ่อยนักนะครับที่ Task Bar หรือแถบงาน โดยป...